ใจสั่งมา

มารดาบิดา หรือญาติเหล่าอื่น ไม่พึงทำเหตุนั้นให้ได้ ส่วนจิตที่ตั้งไว้ดี ฯลฯ

น ตํ มาตา ปิตา กยิรา     อญฺเญ วาปิจ ญาตกา
สมฺมาปณิหิตํ จิตฺตํ     เสยฺยโส นํ ตโต กเร.

[คำอ่าน]

นะ, ตัง, มา-ตา, ปิ-ตา, กะ-ยิ-รา…..อัน-เย, วา-ปิ-จะ, ยา-ตะ-กา
สำ-มา-ปะ-นิ-หิ-ตัง, จิด-ตัง……ไส-ยะ-โส, นัง, ตะ-โต, กะ-เร

[คำแปล]

“มารดาบิดา หรือญาติเหล่าอื่น ไม่พึงทำเหตุนั้นให้ได้ ส่วนจิตที่ตั้งไว้ดีแล้ว พึงทำเขาให้ดีกว่านั้น.”

(พุทฺธ) ขุ.ธ. 25/20.

ธรรมดาบิดามารดาย่อมมีความปรารถนาดีต่อบุตร หวังความเจริญรุ่งเรืองแก่บุตร สร้างประโยชน์ให้แก่บุตร หรือญาติสนิทมิตรสหายทั้งหลาย ก็ย่อมมีความหวังดีต่อญาติมิตรของตน สร้างประโยชน์ให้แก่ญาติมิตรของตน และช่วยเหลือเกื้อกูลกันตามอัตภาพ

แต่บิดามารดาหรือญาติสนิทมิตรสหายเหล่านั้น ก็สงเคราะห์บุตรธิดาหรือญาติมิตรของตนได้เพียงระดับหนึ่งเท่านั้น คือสามารถสงเคราะห์ด้วยประโยชน์ในโลกนี้เท่านั้น เช่น บิดามารดาเลี้ยงบุตรธิดาให้เติบโต ส่งเสียให้ได้ศึกษาเล่าเรียน ญาติสนิทมิตรสหายคอยช่วยเหลือในกิจการงานต่าง ๆ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ย่อมก่อให้สำเร็จประโยชน์ได้ในโลกิยวิสัย

แต่สิ่งที่จะทำให้บุคคลเจริญและได้รับประโยชน์ยิ่งกว่านั้นก็คือจิตที่ตั้งไว้ดีแล้ว คำว่า “จิตที่ตั้งไว้ดีแล้ว” หมายเอาจิตที่บุคคลตั้งไว้โดยชอบในกุศลกรรมบถ 10 ประการ อันเป็นทางทำกรรมฝ่ายกุศล คือ

  1. เว้นจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
  2. เว้นจากการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของเขาไม่ได้ให้
  3. เว้นจากการประพฤติผิดในกาม
  4. เว้นจากการกล่าวเท็จ
  5. เว้นจากการพูดจาส่อเสียดยุยงให้คนอื่นแตกสามัคคีกัน
  6. เว้นจากการพูดคำหยาบ
  7. เว้นจากการพูดเพ้อเจ้อเหลวไหลไร้สาระ
  8. ไม่เพ่งเล็งอยากได้ของของคนอื่นในทางที่ผิด
  9. ไม่คิดปองร้ายคนอื่น
  10. มีความเห็นถูกต้องตามธรรม

จิตที่ตั้งไว้ดีแล้วในกุศลกรรมบถทั้ง 10 ประการเช่นนี้ ย่อมยังประโยชน์ให้เกิดแก่บุคคลนั้น ๆ เป็นอันมาก ผู้ที่มีจิตอันตั้งไว้ดีแล้ว ย่อมไม่ประกอบบาปกรรมกระทำความชั่ว เว้นเสียจากอบายมุขทั้งปวง ดำรงตนอยู่ในศีลธรรมอันดี ประพฤติห่างไกลจากกิเลสอันเป็นเหตุมัวหมอง เมื่อเป็นเช่นนี้ ตัวเขาเองย่อมประสบกับความสุขความเจริญทั้งในโลกนี้และโลกหน้า นอกจากนั้นยังจะสามารถนำพาตนเองให้ประสบกับประโยชน์อย่างยิ่งคือพระนิพพานอันเป็นสิ่งที่บิดามารดาหรือญาติสนิทมิตรสหายไม่สามารถทำให้ได้.