
ปิยรูปสาตรูป
ปิยรูปสาตรูป คือ สภาวะที่น่ารักน่าชื่นใจ หมายถึง สิ่งที่มีสภาวะน่ารักน่าชื่นใจ เป็นที่เกิดและเป็นที่ดับของตัณหา เป็นขบวนธรรมที่แสดงให้เห็นความเกิดและความดับแห่งตัณหา มีทั้งหมด 10 หมวด หมวดละ 6 อย่าง ดังนี้
1. อายตนะภายใน 6
อายตนะภายใน คือ ที่เชื่อมต่อให้เกิดความรู้ แดนต่อความรู้ฝ่ายใน หมายถึง ทางเชื่อมต่อให้เกิดความรู้ที่มีอยู่ภายในตัวเรา ทำหน้าที่เชื่อมโยงกับอายตนะภายนอก มี 6 อย่าง คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และ ใจ
2. อายตนะภายนอก 6
อายตนะภายนอก คือ ที่เชื่อมต่อให้เกิดความรู้ แดนต่อความรู้ฝ่ายนอก หมายถึง สิ่งภายนอกที่สามารถรับรู้ได้โดยอาศัยอายตนะภายใน มี 6 อย่าง คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ และ ธรรมารมณ์
3. วิญญาณ 6
วิญญาณ แปลว่า ความรู้แจ้ง หมายถึง ความรู้แจ้งอารมณ์อันได้แก่อายตนะภายนอก 6 ประการ คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ และธรรมารมณ์ คือเมื่ออายตนะภายในกับอายตนะภายนอกกระทบกัน ย่อมเกิดความรู้เฉพาะด้านขึ้นมา เช่น เมื่อตากระทบรูป ย่อมเกิดความรู้ทางตาขึ้นมา เรียกว่า เห็น เป็นต้น ความรู้ที่เกิดขึ้นจากการกระทบกันของอายตนะภายในกับอายตนะภายนอกนี้ เรียกว่า วิญญาณ มี 6 ประการ เท่ากับอายตนะภายในและอายตนะภายนอก คือ จักขุวิญญาณ โสตวิญญาณ ฆานวิญญาณ ชิวหาวิญญาณ กายวิญญาณ และ มโนวิญญาณ
4. สัมผัส 6
สัมผัส หรือ ผัสสะ แปลว่า ความกระทบ หมายถึง ความประจวบกันแห่งอายตนะภายใน อายตนะภายนอก และวิญญาณ แบ่งเป็น 6 ประการ ตามอายตนะและวิญญาณ คือ จักขุสัมผัส โสตสัมผัส ฆานสัมผัส ชิวหาสัมผัส กายสัมผัส และ มโนสัมผัส
5. เวทนา 6
เวทนา แปลว่า ความรู้สึก หรือ การเสวยอารมณ์ แบ่งตามช่องทางที่เกิดของเวทนาเป็น 6 ประการ คือ จักขุสัมผัสสชาเวทนา โสตสัมผัสสชาเวทนา ฆานสัมผัสสชาเวทนา ชิวหาสัมผัสสชาเวทนา กายสัมผัสสชาเวทนา และ มโนสัมผัสสชาเวทนา
6. สัญญา 6
สัญญา คือ ความกำหนดได้หมายรู้ ความจำได้ ความหมายรู้ได้ ความหมายรู้อารมณ์ หมายถึง การกำหนดรู้อาการของอารมณ์นั้น ๆ เช่น ทรวดทรง สันฐาน ตลอดถึงสมมติบัญญัติต่าง ๆ เช่น ขาว ดำ ดัง เบา เป็นต้น เป็นระบบความจำที่สามารถจำคน สัตว์ สิ่งของ และเหตุการณ์ต่างๆ ได้ เช่น จำสิ่งที่เห็น จำเสียง จำกลิ่น จำรส จำชื่อคน เป็นต้น ตัวอย่างเช่น เมื่อหูได้ยินเสียง เกิดความรู้สึกสบาย เป็นสุข จิตก็จะจดจำหรือหมายรู้ในเสียงนั้นว่า เสียงอย่างนี้ มีลักษณะอย่างนี้ ให้ความรู้สึกอย่างนี้ เป็นต้น มี 6 ประการ คือ รูปสัญญา สัททสัญญา คันธสัญญา รสสัญญา โผฏฐัพพสัญญา และ ธัมมสัญญา
7. สัญเจตนา 6
สัญเจตนา แปลว่า ความจงใจ ความตั้งใจ ความจำนง หรือความแสวงหาอารมณ์ หมายถึง ความคิดปรุงแต่งในรูปสัญญาเป็นต้น กล่าวคือ เมื่อสัญญาคือความหมายรู้เกิดขึ้นแล้ว ความคิดปรุงแต่งก็จะเกิดขึ้นตามมา สัญเจตนา แบ่งเป็น 6 ประการ ตามอารมณ์ที่รับเข้ามา คือ รูปสัญเจตนา สัททสัญเจตนา คันธสัญเจตนา รสสัญเจตนา โผฏฐัพพสัญเจตนา และ ธัมมสัญเจตนา
8. ตัณหา 6
ตัณหา แปลว่า ความอยาก หรือ ความทะยานอยาก คือ เมื่อจิตคิดปรุงแต่งให้เกิดความชอบ ความชัง ความพอใจ ความไม่พอใจ เป็นต้นแล้ว ก็จะเกิดตัณหาขึ้นมา เช่น อยากได้อารมณ์ที่ชอบใจ อยากจะพ้นไปจากอารมณ์ที่ไม่ชอบใจ เป็นต้น มี 6 ประการ คือ รูปตัณหา สัททตัณหา คันธตัณหา รสตัณหา โผฏฐัพพตัณหา และ ธัมมตัณหา
9. วิตก 6
วิตก แปลว่า ความตรึก เป็นสภาวะที่เกิดต่อเนื่องมาจากตัณหา คือ เมื่อเกิดตัณหาคือความทะยานอยากในอารมณ์ใดแล้ว จิตก็จะตรึกคือคิดคำนึงในอารมณ์นั้นด้วยอำนาจของความทะยานอยาก จำแนกเป็น 6 อย่าง คือ รูปวิตก สัททวิตก คันธวิตก รสวิตก โผฏฐัพพวิตก และ ธัมมวิตก
10. วิจาร 6
วิจาร แปลว่า ความไตร่ตรองหรือการคิดทบทวน หมายถึง ความไตร่ตรองในอารมณ์ที่ตรึก เป็นสภาวะที่เกิดต่อเนื่องจากวิตกคือความตรึก กล่าวคือ เมื่อเกิดวิตกคือความตรึกในอารมณ์ใด ๆ ด้วยอำนาจความทะยานอยากแล้ว ใจก็นำเอาอารมณ์นั้นมาไตร่ตรองตามแต่จะนึกไปต่าง ๆ นานา เช่น ไตร่ตรองถึงความดีหรือไม่ดีของอารมณ์นั้น ๆ เป็นต้น มี 6 อย่าง คือ รูปวิจาร สัททวิจาร คันธวิจาร รสวิจาร โผฏฐัพพวิจาร และ ธัมมวิจาร
- อนันตริยกรรม 5 ประการ
- อภิณหปัจจเวกขณ์ 5 ประการ
- เวสารัชชกรณธรรม 5 ประการ
- องค์แห่งภิกษุใหม่ (นวกภิกขุธรรม) 5 ประการ
- องค์แห่งพระธรรมกถึก (ธรรมเทสกธรรม) 5 ประการ
- ธัมมัสสวนานิสงส์ 5 ประการ
- พละ 5 ประการ
- พละ 5 ของพระมหากษัตริย์
- นิวรณ์ 5 ประการ
- ขันธ์ 5 ประการ
- อนุปุพพิกถา 5 ประการ
- กามคุณ 5 ประการ
- ปีติ 5 ประการ
- จักขุ 5 ประการ
- ธรรมขันธ์ 5 ประการ
- มัจฉริยะ 5 ประการ
- วิญญาณ 5 ประการ
- มาร 5 ประการ
- วิมุตติ 5 ประการ
- เวทนา 5 ประการ
- สังวร 5 ประการ
- สุทธาวาส 5 ชั้น
- พระอนาคามี 5 ประเภท
- พระอรหันต์ 5 ประเภท
- อุบาสกธรรม 5 ประการ
- มิจฉาวณิชชา 5 ประการ
- ศีล 5 ประการ
- ประโยชน์ที่ควรถือเอาจากโภคทรัพย์ (โภคอาทิยะ) 5 ประการ
- พร 5 ประการ
- เทวทูต 5 ประการ
- ธรรมสมาธิ 5 ประการ
- นิยาม 5 ประการ
- หน้าที่มารดาบิดาที่มีต่อบุตร 5 ประการ
- หน้าที่ของบุตรธิดาที่พึงทำต่อมารดาบิดา 5 ประการ
- หน้าที่ศิษย์ที่พึงปฏิบัติต่อครูอาจารย์ 5 ประการ
- หน้าที่ครูอาจารย์ที่พึงปฏิบัติต่อศิษย์ 5 ประการ
- หน้าที่สามีที่พึงปฏิบัติต่อภรรยา 5 ประการ
- หน้าที่ภรรยาที่พึงปฏิบัติต่อสามี 5 ประการ
- แนวทางบำรุงน้ำใจมิตรสหาย 5 ประการ
- สิ่งที่เพื่อนควรปฏิบัติต่อเพื่อน 5 ประการ
- สิ่งที่นายจ้างควรปฏิบัติต่อลูกจ้าง 5 ประการ
- สิ่งที่ลูกจ้างควรปฏิบัติ 5 ประการ
- กิริยาที่พึงปฏิบัติต่อสมณะ 5 ประการ
- หน้าที่ของพระสงฆ์ที่พึงปฏิบัติต่อคฤหัสถ์ 6 ประการ
- อาวาสิกธรรม 5 ประการ (หมวดที่ 1)
- อาวาสิกธรรม 5 ประการ (หมวดที่ 2)
- อาวาสิกธรรม 5 ประการ (หมวดที่ 3)
- อาวาสิกธรรม 5 ประการ (หมวดที่ 4)
- อาวาสิกธรรม 5 ประการ (หมวดที่ 5)
- อาวาสิกธรรม 5 ประการ (หมวดที่ 6)
- อาวาสิกธรรม 5 ประการ (หมวดที่ 7)
- อาวาสิกธรรม 5 ประการ (หมวดที่ 8)
- อาวาสิกธรรม 5 ประการ (หมวดที่ 9)
- อาวาสิกธรรม 5 ประการ (หมวดที่ 10)
- นิโรธ 5 ประการ
- พหูสูตมีองค์ 5 ประการ
- เบญจธรรม 5 ประการ
- อริยวัฑฒิ 5 ประการ
- อายุวัฒนธรรม 5 ประการ (หมวดที่ 1)
- อายุวัฒนธรรม 5 ประการ (หมวดที่ 2)
- อินทรีย์ 5 ประการ
- คารวตา 6 ประการ
- สารณียธรรม 6 ประการ
- ปิยรูปสาตรูป
- อายตนะภายใน 6 ประการ
- อายตนะภายนอก 6 ประการ
- วิญญาณ 6 ประการ
- สัมผัส 6 ประการ
- เวทนา 6 ประการ
- สัญญา 6 ประการ
- สัญเจตนา 6 ประการ
- ตัณหา 6 ประการ
- วิตก 6 ประการ
- วิจาร 6 ประการ
- อภิญญา 6 ประการ
- อภิฐาน 6 ประการ
- จริต 6 ประการ
- ธรรมคุณ 6 ประการ
- ภัพพตาธรรม 6 ประการ
- เวปุลลธรรม 6 ประการ
- สวรรค์ 6 ชั้น
- วัฒนมุข 6 ประการ
- อนุตตริยะ 6 ประการ
- ทวาร 6 ประการ
- อบายมุข 6 ประการ
- ธาตุ 6 ประการ
- ธาตุกัมมัฏฐาน 6 ประการ
- ทิศ 6 ประการ