อายุวัฒนธรรม 5 ประการ (หมวดที่ 1)

อายุสสธรรม หรือ อายุวัฒนธรรม คือ ธรรมที่เกื้อกูลแก่อายุ หรือธรรมที่ส่งเสริมสุขภาพ ธรรมที่ช่วยให้อายุยืน เป็นหลักธรรมสำหรับยึดปฏิบัติเพื่อความมีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง มีโรคภัยไข้เจ็บน้อย และมีอายุยืนยาว มี 5 ประการ

อริยวัฑฒิ 5 ประการ

อริยวัฑฒิ หรือ อารยวัฒิ แปลว่า ความเจริญอย่างประเสริฐ หรือ หลักความเจริญของอารยชน เป็นหลักธรรมที่นำไปสู่ความเจริญอันประเสริฐ หรือแสดงถึงความเจริญงอกงามอย่างอารยชน มี 5 ประการ

ปัพพชิตอภิณหปัจจเวกขณ์ 10 ประการ

ปัพพชิตอภิณหปัจจเวกขณ์ คือ ธรรมที่บรรพชิตควรพิจารณาเนือง ๆ หรือนึกถึงอยู่เสมอ เพื่อเตือนใจตนเองให้เป็นผู้มีความประพฤติดีปฏิบัติชอบ เป็นเครื่องป้องกันความประมาท เร่งสร้างกุศลบุญบารมี และละเว้นจากการประพฤติชั่วอันจะเป็นเครื่องพาตัวให้ตกต่ำ

ศีล 10 ประการ

ศีล แปลว่า ปกติ หมายถึง ข้อปฏิบัติเพื่อรักษาความประพฤติทางกายและทางวาจาให้เป็นปกติและเรียบร้อยดีงาม ศีล 10 เป็นศีลที่มีความเข้มงวดเพิ่มขึ้นจากศีล 8 เป็นศีลสำหรับสามเณรสมาทานรักษา

อาชีวัฏฐมกศีล 8 ประการ

ศีล 8 ทั้งอาชีวะ หรือ อาชีวัฏฐมกศีล คือ ศีลมีอาชีวะเป็นคำรบ 8, หลักความประพฤติรวมทั้งอาชีวะที่บริสุทธิ์ด้วยเป็นข้อที่ 8 เป็นศีลส่วนอาทิพรหมจรรย์ คือ เป็นหลักความประพฤติเบื้องต้นของพรหมจรรย์ กล่าวคือ มรรค เป็นสิ่งที่ต้องประพฤติให้บริสุทธิ์ในขั้นต้นของการดำเนินตามอริยอัฏฐังคิกมรรค ว่าโดยสาระ อาชีวัฏฐมกศีล ก็คือ องค์มรรค 3 ข้อ ในหมวดศีล คือข้อที่ 3, 4, 5 ได้แก่ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ และ สัมมาอาชีวะ นั่นเอง

ศีล 8 ประการ

ศีล แปลว่า ปกติ หมายถึง ข้อปฏิบัติเพื่อรักษาความประพฤติทางกายและทางวาจาให้เป็นปกติและเรียบร้อยดีงาม ศีล 8 เป็นศีลที่มีความเข้มงวดเพิ่มขึ้นจากศีล 5 เป็นศีลสำหรับสมาทานรักษาในกรณีพิเศษเช่นวันอุโบสถ ที่เรียกว่า อุโบสถศีล หรือเป็นศีลสำหรับอุบาสิกาผู้ถือบวชเป็นแม่ชีสมาทานรักษา

เบญจธรรม 5 ประการ

เบญจธรรม แปลว่า ธรรม 5 ประการ หมายถึง ธรรมอันดีงามห้าอย่าง หรือคุณธรรมห้าประการ เป็นหลักธรรมที่ใช้ร่วมกับเบญจศีล เป็นธรรมที่เกื้อกูลแก่การรักษาศีลห้า เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เบญจกัลยาณธรรม

พหูสูตมีองค์ 5 ประการ

องค์ประกอบหรือคุณสมบัติที่ทำให้ได้ชื่อว่าเป็นพหูสูต คือ ผู้ได้เรียนรู้มามาก มีความรู้มาก หรือ คงแก่เรียน มี 5 ประการ

พละ 5 ของพระมหากษัตริย์

พละ 5 ของพระมหากษัตริย์
1. พาหาพละ หรือ กายพละ กำลังแขน หรือ กำลังกาย
2. โภคพละ กำลังโภคสมบัติ
3. อมัจจพละ กำลังอำมาตย์
4. อภิชัจจพละ กำลังความมีชาติสูง
5. ปัญญาพละ กำลังปัญญา

นิโรธ 5 ประการ

นิโรธ 5 ประการ
1. วิกขัมภนนิโรธ ความดับด้วยการข่มไว้
2. ตทังคนิโรธ ความดับด้วยองค์นั้น ๆ
3. สมุจเฉทนิโรธ ความดับกิเลสด้วยการตัดขาด
4. ปฏิปัสสัทธินิโรธ ความดับความสงบระงับ
5. นิสสรณนิโรธ ความดับด้วยการสลัดออก

นิยาม 5 ประการ

นิยาม 5 ประการ
1. อุตุนิยาม กฎธรรมชาติเกี่ยวกับอุณหภูมิ
2. พีชนิยาม กฎธรรมชาติเกี่ยวกับการสืบพันธุ์
3. จิตตนิยาม กฎธรรมชาติเกี่ยวกับการทำงานของจิต
4. กรรมนิยาม กฎธรรมชาติเกี่ยวกับการกระทำของมนุษย์
5. ธรรมนิยาม กฎแห่งธรรม

ธรรมสมาธิ 5 ประการ

ธรรมสมาธิ 5 ประการ
1. ปราโมทย์ ความชื่นบานใจ
2. ปีติ ความอิ่มใจ
3. ปัสสัทธิ ความสงบเย็นกายเย็นใจ
4. สุข ความสุข
5. สมาธิ ความสงบตั้งมั่นของจิต

สุทธาวาส 5 ชั้น

สุทธาวาส 5 ชั้น
1. อวิหา ภูมิของพรหมผู้ไม่ยอมละที่อยู่ของตน
2. อตัปปา ภูมิของพรหมผู้ไม่มีความสะดุ้งหวาดกลัวต่ออะไร
3. สุทัสสา ภูมิของพรหมผู้มีร่างอันงดงาม
4. สุทัสสี ภูมิของพรหมผู้มีความงดงามยิ่งกว่าพรหมชั้นสุทัสสา
5. อกนิฏฐา ภูมิของพรหมผู้สูงสุด

สังวร 5 ประการ

สังวร 5 ประการ
1. สีลสังวร การสำรวมระวังด้วยศีล
2. สติสังวร การสำรวมระวังด้วยสติ
3. ญาณสังวร การสำรวมระวังด้วยญาณ
4. ขันติสังวร การสำรวมระวังด้วยความอดทน
5. วิริยสังวร การสำรวมระวังด้วยความเพียร

เวทนา 5 ประการ

เวทนา 5 ประการ
1. สุข ความสุขทางกาย
2. ทุกข์ ความทุกข์ทางกาย
3. โสมนัส ความสุขทางใจ
4. โทมนัส คือ ความทุกข์ทางใจ
5. อุเบกขา คือ ความรู้สึกเฉย ๆ

วิมุตติ 5 ประการ

วิมุตติ 5 ประการ
1. วิกขัมภนวิมุตติ ความหลุดพ้นด้วยการข่มไว้
2. ตทังควิมุตติ ความหลุดพ้นด้วยองค์นั้น ๆ
3. สมุจเฉทวิมุตติ ความหลุดพ้นด้วยการตัดขาด
4. ปฏิปัสสัทธิวิมุตติ ความหลุดพ้นด้วยความสงบระงับ
5. นิสสรณวิมุตติ ความหลุดพ้นด้วยการสลัดออก

วิธีฝึกตัวเองเพื่อไม่ให้ทำผิดศีลข้อที่ 1

วิธีฝึกตัวเองเพื่อไม่ให้ทำผิดศีลข้อที่ 1
1. อย่าเป็นคนถือโทษโกรธแค้น
2. อย่ายินดีในการใช้อาวุธทุกประเภท
3. มีความเอ็นดูผู้อื่นสัตว์อื่น
4. สงสารอยากช่วยเหลือผู้อื่นสัตว์อื่น
5. หวังประโยชน์เกื้อกูลแก่สรรพสัตว์

อย่าเหลิงเมื่อถูกชื่นชม อย่าขื่นขมเมื่อถูกตำหนิ

ไม่ว่าจะเป็นคำชื่นชมหรือคำตำหนิก็ตาม มันก็เป็นคำพูดเป็นวจีกรรมของบุคคลนั้น ๆ เท่านั้น เราก็ไม่ควรที่จะไปหวั่นไหวกับคำพูดเหล่านั้น

วิญญาณ 5 ประการ

วิญญาณ 5 ประการ
1. จักขุวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางตา
2. โสตวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางหู
3. ฆานวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางจมูก
4. ชิวหาวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางลิ้น
5. กายวิญญาณ ความรู้อารมณ์ทางกาย

มาร 5 ประการ

มาร 5 ประการ
1. ขันธมาร มารคือเบญจขันธ์
2. กิเลสมาร มารคือกิเลส
3. อภิสังขารมาร มารคืออภิสังขาร
4. เทวปุตตมาร มารคือเทพบุตร
5. มัจจุมาร มารคือความตาย

มัจฉริยะ 5 ประการ

มัจฉริยะ 5 ประการ
1. อาวาสมัจฉริยะ ตระหนี่ที่อยู่
2. กุลมัจฉริยะ ตระหนี่ตระกูล
3. ลาภมัจฉริยะ ตระหนี่ลาภ
4. วัณณมัจฉริยะ ตระหนี่วรรณะ
5. ธัมมมัจฉริยะ ตระหนี่ธรรม

ปีติ 5 ประการ

ปีติ 5 ประการ
1. ขุททกาปีติ ปีติเล็กน้อย
2. ขณิกาปีติ ปีติชั่วขณะ
3. โอกกันติกาปีติ ปีติเป็นพักๆ
4. อุพเพงคาปีติ ปีติโลดโผน
5. ผรณาปีติ ปีติซาบซ่าน

ธรรมขันธ์ 5 ประการ

ธรรมขันธ์ 5 ประการ
1. สีลขันธ์ กองศีล
2. สมาธิขันธ์ กองสมาธิ
3. ปัญญาขันธ์ กองปัญญา
4. วิมุตติขันธ์ กองวิมุตติ
5. วิมุตติญาณทัสสนขันธ์ กองวิมุตติญาณทัสสนะ

จักขุ 5 ประการ

จักขุ 5 ประการ
1. มังสจักขุ ตาเนื้อ
2. ทิพพจักขุ ตาทิพย์
3. ปัญญาจักขุ ตาปัญญา
4. พุทธจักขุ ตาพระพุทธเจ้า
5. สมันตจักขุ ตาเห็นรอบ

กามคุณ 5 ประการ

กามคุณ 5 ประการ
1. รูปะ รูป
2. สัททะ เสียง
3. คันธะ กลิ่น
4. รสะ รส
5. โผฏฐัพพะ สัมผัสทางกาย

อนุปุพพิกถา 5 ประการ

อนุปุพพิกถา 5 ประการ
1. ทานกถา กล่าวถึงการให้
2. สีลกถา กล่าวถึงศีล
3. สัคคกถา กล่าวถึงสวรรค์
4. กามาทีนวกถา กล่าวถึงโทษของกาม
5. เนกขัมมานิสังสกถา กล่าวถึงอานิสงส์ของการออกจากกาม

ขันธ์ 5 ประการ

ขันธ์ คือ กองแห่งรูปธรรมและนามธรรมห้าหมวดที่ประชุมกันเข้าเป็นหน่วยรวม ซึ่งบัญญัติเรียกว่า สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา เป็นต้น ส่วนประกอบห้าอย่างที่รวมเข้าเป็นชีวิต

นิวรณ์ 5 ประการ

นิวรณ์ 5 ประการ
1. กามฉันทะ ความพอใจในกาม
2. พยาบาท ความคิดร้าย
3. ถีนมิทธะ ความหดหู่และเซื่องซึม
4. อุทธัจจกุกกุจจะ ความฟุ้งซ่านและร้อนใจ
5. วิจิกิจฉา ความลังเลสงสัย

พละ 5 ประการ

พละ 5 ประการ
1. สัทธา ความเชื่อ
2. วิริยะ ความเพียร
3. สติ ความระลึกได้
4. สมาธิ ความตั้งใจมั่น
5. ปัญญา ความรอบรู้

ธัมมัสสวนานิสงส์ (อานิสงส์ของการฟังธรรม) 5 ประการ

ธัมมัสสวนานิสงส์ 5 ประการ
1. อสฺสุตํ สุณาติ ย่อมได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟัง
2. สุตํ ปริโยทเปติ สิ่งที่เคยได้ฟัง ก็ทำให้แจ่มแจ้ง เข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้น
3. กงฺขํ วิหนติ บรรเทาความสงสัยเสียได้
4. ทิฏฺฐึ อุชุํ กโรติ ทำความเห็นให้ถูกต้องได้
5. จิตฺตมสฺส ปสีทติ จิตของเขาย่อมผ่องใส