ภิกษุพึงสงบกิเลสและบาปธรรมที่เป็นภายในเสีย ไม่พึงแสวงหาความสงบจากที่อื่น เมื่อระงับภายในได้แล้ว สิ่งที่จะพึงยึดถือใหม่ย่อมไม่มี สิ่งที่ยึดถือไว้จำจะสละ จะมีแต่ไหน

อชฺฌตฺตเมว อุปสเม นาญฺญโต ภิกฺขุ สนฺติเมเสยฺย อชฺฌตฺตํ อุปสนฺตสฺส นตฺถิ อตฺตํ กุโต นิรตฺตํ วา.

สิ่งที่ไม่ได้คิดไว้ ย่อมมีได้ สิ่งที่คิดไว้ ก็เสียหายได้ โภคะของสตรีหรือบุรุษ ที่สำเร็จได้ด้วยนึกเอา ไม่มีเลย

อจินฺติตมฺปิ ภวติ จินฺติตมฺปิ วินสฺสติ น หิ จินฺตามยา โภคา อิตฺถิยา ปุริสสฺส วา.

ควรงดเว้นบาปเสีย เหมือนพ่อค้ามีพวกน้อย มีทรัพย์มาก เว้นหนทางที่มีภัย และเหมือนผู้รักชีวิต เว้นยาพิษเสีย ฉะนั้น

วาณิโชว ภยํ มคฺคํ อปฺปสตฺโถ มหทฺธโน วิสํ ชีวิตุกาโมว ปาปานิ ปวิวชฺชเย.

ถ้าฝ่ามือไม่มีแผล ก็พึงนำยาพิษไปด้วยฝ่ามือได้ ยาพิษซึมเข้าฝ่ามือไม่มีแผลไม่ได้ ฉันใด บาปย่อมไม่มีแก่ผู้ไม่ทำ ฉันนั้น

ปาณิมฺหิ เจ วโณ นาสฺส หเรยฺย ปาณินา วิสํ นาพฺพณํ วิสมนฺเวติ นตฺถิ ปาปํ อกุพฺพโต.

บาปกรรมที่ทำแล้วย่อมไม่เปลี่ยนแปลง เหมือนนมสดที่รีดในวันนั้น บาปกรรมย่อมตามเผาคนเขลา เหมือนไฟที่เถ้ากลบไว้

น หิ ปาปํ กตํ กมฺมํ สชฺชุขีรํว มุจฺจติ ฑหนฺตํ พาลมนฺเวติ ภสฺมาจฺฉนฺโนว ปาวโก.

สหายเป็นมิตรของคนผู้มีความต้องการเกิดขึ้นบ่อย ๆ บุญทั้งหลายที่ตนทำเอง บุญนั้นจะเป็นมิตรในสัมปรายภพ

สหาโย อตฺถชาตสฺส โหติ มิตฺตํ ปุนปฺปุนํ สยํ กตานิ ปุญฺญานิ ตํ มิตฺตํ สมฺปรายิกํ.

ไม่ควรดูหมิ่นต่อบุญว่า มีประมาณน้อย จักไม่มาถึง แม้หม้อน้ำ ย่อมเต็มได้ด้วยหยาดน้ำที่ตก ฉันใด ผู้มีปัญญา สั่งสมบุญแม้ทีละน้อย ๆ ย่อมเต็มได้ด้วยบุญ ฉันนั้น

มาวมญฺเญถ ปุญฺญสฺส น มตฺตํ อาคมิสฺสติ อุทพินฺทุนิปาเตน อุทกุมฺโภปิ ปูรติ อาปูรติ ธีโร ปุญฺญสฺส โถกํ โถกํปิ อาจินํ.

ผู้ทำบุญแล้ว ย่อมบันเทิงในโลกนี้ ละไปแล้วย่อมบันเทิง ชื่อว่าย่อมบันเทิงในโลกทั้งสอง เขาเห็นความบริสุทธิ์แห่งกรรมของตนแล้ว ย่อมบันเทิงปราโมทย์

อิธ โมทติ เปจฺจ โมทติ กตปุญฺโญ อุภยตฺถ โมทติ โส โมทติ โส ปโมทติ ทิสฺวา กมฺมวิสุทฺธิมตฺตโน.

ผู้ทำบุญแล้ว ย่อมยินดีในโลกนี้ ละไปแล้วย่อมยินดี ชื่อว่าย่อมยินดีในโลกทั้งสอง เขาย่อมยินดีว่าเราทำบุญไว้แล้ว ไปสู่สุคติ ย่อมยินดียิ่งขึ้น

อิธ นนฺทติ เปจฺจ นนฺทติ กตปุญฺโญ อุภยตฺถ นนฺทติ ปุญฺญํ เม กตนฺติ นนฺทติ ภิยฺโย นนฺทติ สุคตึ คโต.

เมื่อก่อนประมาท ภายหลังไม่ประมาท เขาชื่อว่ายังโลกนี้ให้สว่าง เหมือนพระจันทร์พ้นจากเมฆหมอกฉะนั้น

โย จ ปุพฺเพ ปมชฺชิตฺวา ปจฺฉา โส นปฺปมชฺชติ โสมํ โลกํ ปภาเสติ อพฺภา มุตฺโต ว จนฺทิมา.

หากกล่าวพุทธพจน์อันมีประโยชน์ได้มาก แต่เป็นคนประมาท ไม่ทำตามพุทธพจน์นั้น ก็ไม่มีส่วนแห่งสามัญผล ฯลฯ

พหุมฺปิ เจ สหิตํ ภาสมาโน น ตกฺกโร โหติ นโร ปมตฺโต โคโปว คาโว คณยํ ปเรสํ น ภาควา สามญฺญสฺส โหติ.

บุคคลย่อมเข้าถึงความเป็นกษัตริย์ ด้วยพรหมจรรย์อย่างต่ำ ถึงความเป็นเทวดา ด้วยพรหมจรรย์อย่างกลาง ย่อมบริสุทธิ์ ด้วยพรหมจรรย์อย่างสูง

หีเนน พฺรหฺมจริเยน ขตฺติเย อุปปชฺชติ มชฺฌิเมน จ เทวตฺตํ อุตฺตเมน วิสุชฺฌติ.

ผู้ถึงพร้อมด้วยสัมมัปปธาน มีสติปัฏฐานเป็นอารมณ์ ดารดาษไปด้วยดอกไม้คือวิมุตติ หาอาสวะมิได้ จักปรินิพพาน

สมฺมปฺปธานสมฺปนฺโน สติปฏฺฐานโคจโร วิมุตฺติกุสุมสญฺฉนฺโน ปรินิพฺพายิสฺสตฺยนาสโว.

สมณพราหมณ์บางเหล่ากล่าวธรรมของตนว่าบริบูรณ์ แต่กล่าวธรรมของผู้อื่นว่าเลว (บกพร่อง) เขาย่อมทะเลาะวิวาทกัน ฯลฯ

สกํ หิ ธมฺมํ ปริปุณฺณมาหุ อญฺญสฺส ธมฺมํ ปน หีนมาหุ เอวมฺปิ วิคฺคยฺห วิวาทยนฺติ สกํ สกํ สมฺมติมาหุ สจฺจํ.

ผู้ใดละธรรมเป็นเหตุให้เนิ่นช้าได้แล้ว ยินดีในธรรมที่ไม่มีสิ่งทำให้เนิ่นช้า ผู้นั้นก็บรรลุพระนิพพานอันปราศจากโยคะ ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า

โย จ ปปญฺจํ หิตฺวาน นิปฺปปญฺจปเท รโต อาราธยิ โส นิพฺพานํ โยคกฺเขมํ อนุตฺตรํ.

กระแสเหล่าใดมีอยู่ในโลก สติเป็นเครื่องกั้นกระแสเหล่านั้น เรากล่าวว่า สติเป็นเครื่องกั้นกระแส กระแสเหล่านั้นอันบุคคลปิดกั้นได้ด้วยปัญญา

ยานิ โสตานิ โลกสฺมึ สติ เตสํ นิวารณํ โสตานํ สํวรํ พฺรูมิ ปญฺญาเยเต ปิถิยฺยเร.

บรรดาทางทั้งหลาย ทางมีองค์ 8 ประเสริฐสุด บรรดาสัจจะทั้งหลาย บท 4 ประเสริฐสุด บรรดาธรรมทั้งหลาย วิราคธรรมประเสริฐสุด ฯลฯ

มคฺคานฏฺฐงฺคิโก เสฏฺโฐ สจฺจานํ จตุโร ปทา วิราโค เสฏฺโฐ ธมฺมานํ ทิปทานญฺจ จกฺขุมา.