คารวตา 6 ประการ
คารวตา หรือ คารวะ แปลว่า ความเคารพ หมายถึง การถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะพึงใส่ใจและปฏิบัติด้วยความเอื้อเฟื้อ หรือโดยความหนักแน่นจริงจัง การมองเห็นคุณค่าและความสำคัญ แล้วปฏิบัติต่อบุคคลหรือสิ่งนั้นโดยถูกต้อง ด้วยความจริงใจ มี 6 ประการ
คารวตา หรือ คารวะ แปลว่า ความเคารพ หมายถึง การถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะพึงใส่ใจและปฏิบัติด้วยความเอื้อเฟื้อ หรือโดยความหนักแน่นจริงจัง การมองเห็นคุณค่าและความสำคัญ แล้วปฏิบัติต่อบุคคลหรือสิ่งนั้นโดยถูกต้อง ด้วยความจริงใจ มี 6 ประการ
พระนิพพาน เป็นหนทางสู่ความดับทุกข์ทั้งปวง ผู้ที่เจริญวิปัสสนากรรมฐานจนสามารถบรรุอรหัตตผลได้แล้ว เมื่อถึงคราวสิ้นอายุ เราไม่เรียกว่า ตาย แต่เรียกว่า นิพพาน
พระสงฆ์ จัดเป็นอุปริมทิศ คือ ทิศเบื้องบน ใน ทิศ 6 เพราะเป็นผู้ที่สูงด้วยคุณธรรม สูงด้วยศีลาจารวัตร และเป็นผู้นำทางจิตใจ ดังนั้น พระสงฆ์จึงได้รับความเคารพนับถือและกราบไหว้บูชาจากคฤหัสถ์ทั้งหลาย
สมณะหรือพระภิกษุสามเณร จัดเป็นอุปริมทิศ คือ ทิศเบื้องบน ใน ทิศ 6 เพราะท่านเป็นผู้ที่สูงด้วยคุณธรรม สูงด้วยศีลาจารวัตร และเป็นผู้นำทางจิตใจ ฆราวาสทั้งหลายพึงปฏิบัติต่อสมณะ 5 สถาน
ลูกจ้าง จัดเป็นเหฏฐิมทิศ หรือ ทิศเบื้องล่าง ในทิศ 6 เพราะเป็นผู้ที่คอยช่วยเหลือรับใช้นายจ้าง ช่วยทำงานต่าง ๆ และเป็นฐานกำลังให้แก่นายจ้าง การที่ผู้เป็นลูกจ้างจะสามารถดำรงชีพอยู่ได้ก็ต้องอาศัยนายจ้าง
ลูกจ้าง จัดเป็นเหฏฐิมทิศ หรือ ทิศเบื้องล่าง ในทิศ 6 เพราะเป็นผู้ที่คอยช่วยเหลือรับใช้นายจ้าง ช่วยทำงานต่าง ๆ และเป็นฐานกำลังให้แก่นายจ้าง การงานทั้งหลายของนายจ้างจะสำเร็จลุล่วงได้ต้องอาศัยลูกจ้าง ดังนั้น ลูกจ้างจึงมีความสำคัญต่อการประสบความสำเร็จของนายจ้าง
หน้าที่ของลูกที่ดี 5 ข้อ
1. เลี้ยงดูพ่อแม่เมื่อแก่เฒ่า
2. ช่วยพ่อแม่ทำงาน
3. รักษาวงศ์ตระกูล
4. ทำตัวเป็นทายาทที่ดี
5. ทำบุญให้พ่อแม่เมื่อท่านวายชนม์
มิตรสหาย จัดเป็นอุตตรทิศ คือ ทิศเบื้องซ้าย ในทิศ 6 เพราะเป็นผู้ช่วยให้ข้ามพ้นอุปสรรคอันตราย และเป็นกำลังสนับสนุนให้บรรลุความสำเร็จ
มิตรสหาย จัดเป็นอุตตรทิศ คือ ทิศเบื้องซ้าย ในทิศ 6 เพราะเป็นผู้ช่วยให้ข้ามพ้นอุปสรรคอันตราย และเป็นกำลังสนับสนุนให้บรรลุความสำเร็จ
หน้าที่สำคัญของผู้เป็นพ่อเป็นแม่
1. ห้ามลูกไม่ให้ทำความชั่ว
2. สอนลูกให้ทำความดี
3. สนับสนุนการศึกษาของลูก
4. หาคู่ครองที่ดีให้เมื่อถึงเวลาที่สมควร
5. ยกมรดกให้
ภรรยา ได้ชื่อว่าเป็นปัจฉิมทิศ คือ ทิศเบื้องหลัง ในทิศ 6 เพราะเป็นผู้ติดตามคอยสนับสนุนสามีในการทำงานหาเลี้ยงครอบครัว สามีภรรยาต้องมีความรักความซื่อสัตย์ต่อกัน ชีวิตคู่จึงจะมีความสุข
ภรรยา ได้ชื่อว่าเป็นปัจฉิมทิศ คือ ทิศเบื้องหลัง ในทิศ 6 เพราะเป็นผู้ติดตามคอยสนับสนุนสามีในการทำงานหาเลี้ยงครอบครัว สามีภรรยาต้องมีความรักความซื่อสัตย์ต่อกัน ชีวิตคู่จึงจะมีความสุข
ครูอาจารย์ ได้ชื่อว่าเป็นทักขิณทิศ คือ ทิศเบื้องขวา ในทิศ 6 เพราะครูอาจารย์เป็นผู้ที่คอยประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้อันเปรียบเสมือนแขนข้างขวาที่ใช้สร้างความเจริญให้แก่ศิษย์
ครูอาจารย์ ได้ชื่อว่าเป็นทักขิณทิศ คือ ทิศเบื้องขวา ในทิศ 6 เพราะครูอาจารย์เป็นผู้ที่คอยประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้อันเปรียบเสมือนแขนข้างขวาที่ใช้สร้างความเจริญให้แก่ศิษย์
มารดาบิดา จัดเป็นปุรัตถิมทิศ คือ ทิศเบื้องหน้า ในหลักทิศ 6 เพราะเป็นผู้มีอุปการะแก่บุตรก่อนกว่าคนอื่นทั้งปวง มารดาบิดา จัดเป็นพรหมของลูก เพราะเป็นผู้ที่ประกอบด้วยพรหมวิหาร 4
มารดาบิดา จัดเป็นปุรัตถิมทิศ คือ ทิศเบื้องหน้า ในหลักทิศ 6 เพราะเป็นผู้มีอุปการะแก่บุตรก่อนกว่าคนอื่นทั้งปวง มารดาบิดาย่อมอนุเคราะห์บุตรธิดาด้วย 5 สถาน
ทิศ ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงทิศโดยทั่วไปมีทิศเหนือเป็นต้น แต่หมายถึงบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับตัวเราโดยฐานะและหน้าที่ 6 ประเภท พระพุทธเจ้าทรงนำบุคคลเหล่านั้นมาเปรียบเทียบกับทิศทั้ง 6 และแสดงหลักการปฏิบัติต่อบุคคลเหล่านั้นไว้
อุบาสกธรรม หมายถึง ธรรมะของอุบาสก หรือคุณสมบัติของอุบาสก ธรรมที่เป็นไปเพื่อความเจริญของอุบาสก ซึ่งหมายถึงผู้ใกล้ชิดพระรัตนตรัย ได้แก่ผู้รับเอาพระรัตนตรัยเป็นสรณะ ไม่มีสรณะอื่นยิ่งกว่า ถ้าเป็นสตรีเรียกว่า อุบาสิกา คุณสมบัติของอุบาสกนั้นมี 7 ประการ
อินทรีย์ ธรรมที่เป็นใหญ่ในกิจของตน คือ เป็นใหญ่ในการทำหน้าที่แต่ละอย่าง ๆ ของตน ได้แก่ เป็นเจ้าการในการครอบงำเสียซึ่งความไร้ศรัทธา ความเกียจคร้าน ความประมาท ความฟุ้งซ่าน และความหลงตามลำดับ มี 5 ประการ
อาวาสิกธรรม คือ ธรรมของภิกษุผู้อยู่ประจำวัด แปลถือความมาใช้ให้เหมาะกับปัจจุบันว่า คุณสมบัติของเจ้าอาวาส หมวดที่ 10 ประเภทมีความสุขความเจริญดุจได้รับเชิญขึ้นไปอยู่ในสวรรค์ อีกหมวดหนึ่ง มี 5 ประการ
อาวาสิกธรรม คือ ธรรมของภิกษุผู้อยู่ประจำวัด แปลถือความมาใช้ให้เหมาะกับปัจจุบันว่า คุณสมบัติของเจ้าอาวาส หมวดที่ 9 ประเภทมีความสุขความเจริญดุจได้รับเชิญขึ้นไปอยู่ในสวรรค์ อีกหมวดหนึ่ง มี 5 ประการ
อาวาสิกธรรม คือ ธรรมของภิกษุผู้อยู่ประจำวัด แปลถือความมาใช้ให้เหมาะกับปัจจุบันว่า คุณสมบัติของเจ้าอาวาส หมวดที่ 8 ประเภทมีความสุขความเจริญดุจได้รับเชิญขึ้นไปอยู่ในสวรรค์ อีกหมวดหนึ่ง มี 5 ประการ
อาวาสิกธรรม คือ ธรรมของภิกษุผู้อยู่ประจำวัด แปลถือความมาใช้ให้เหมาะกับปัจจุบันว่า คุณสมบัติของเจ้าอาวาส หมวดที่ 7 ประเภทมีความสุขความเจริญดุจได้รับเชิญขึ้นไปอยู่ในสวรรค์ อีกหมวดหนึ่ง มี 5 ประการ
อาวาสิกธรรม คือ ธรรมของภิกษุผู้อยู่ประจำวัด แปลถือความมาใช้ให้เหมาะกับปัจจุบันว่า คุณสมบัติของเจ้าอาวาส หมวดที่ 6 ประเภทมีความสุขความเจริญดุจได้รับเชิญขึ้นไปอยู่ในสวรรค์ มี 5 ประการ
อาวาสิกธรรม คือ ธรรมของภิกษุผู้อยู่ประจำวัด แปลถือความมาใช้ให้เหมาะกับปัจจุบันว่า คุณสมบัติของเจ้าอาวาส หมวดที่ 5 ประเภทอนุเคราะห์คฤหัสถ์ มี 5 ประการ
อาวาสิกธรรม คือ ธรรมของภิกษุผู้อยู่ประจำวัด แปลถือความมาใช้ให้เหมาะกับปัจจุบันว่า คุณสมบัติของเจ้าอาวาส หมวดที่ 4 ประเภทมีอุปการะมากแก่วัด มี 5 ประการ
อาวาสิกธรรม คือ ธรรมของภิกษุผู้อยู่ประจำวัด แปลถือความมาใช้ให้เหมาะกับปัจจุบันว่า คุณสมบัติของเจ้าอาวาส หมวดที่ 3 ประเภทอาวาสโสภณคือทำวัดให้งาม มี 5 ประการ
อาวาสิกธรรม คือ ธรรมของภิกษุผู้อยู่ประจำวัด แปลถือความมาใช้ให้เหมาะกับปัจจุบันว่า คุณสมบัติของเจ้าอาวาส หมวดที่ 2 ประเภทเป็นที่รักที่เคารพของสพรหมจารี คือ เพื่อนภิกษุสามเณรผู้ประพฤติพรหมจรรย์ร่วมกัน มี 5 ประการ
อาวาสิกธรรม คือ ธรรมของภิกษุผู้อยู่ประจำวัด แปลถือความมาใช้ให้เหมาะกับปัจจุบันว่า คุณสมบัติของเจ้าอาวาส หมวดที่ 1 ประเภทที่น่ายกย่อง หรือเป็นที่ชื่นชูเจริญใจ มี 5 ประการ
อายุสสธรรม หรือ อายุวัฒนธรรม คือ ธรรมที่เกื้อกูลแก่อายุ หรือธรรมที่ส่งเสริมสุขภาพ ธรรมที่ช่วยให้อายุยืน เป็นหลักธรรมสำหรับยึดปฏิบัติเพื่อความมีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง มีโรคภัยไข้เจ็บน้อย และมีอายุยืนยาว มี 5 ประการ