หน้าที่ของพระสงฆ์ที่พึงปฏิบัติต่อคฤหัสถ์ 6 ประการ
พระสงฆ์ จัดเป็นอุปริมทิศ คือ ทิศเบื้องบน ใน ทิศ 6 เพราะเป็นผู้ที่สูงด้วยคุณธรรม สูงด้วยศีลาจารวัตร และเป็นผู้นำทางจิตใจ ดังนั้น พระสงฆ์จึงได้รับความเคารพนับถือและกราบไหว้บูชาจากคฤหัสถ์ทั้งหลาย
พระสงฆ์ จัดเป็นอุปริมทิศ คือ ทิศเบื้องบน ใน ทิศ 6 เพราะเป็นผู้ที่สูงด้วยคุณธรรม สูงด้วยศีลาจารวัตร และเป็นผู้นำทางจิตใจ ดังนั้น พระสงฆ์จึงได้รับความเคารพนับถือและกราบไหว้บูชาจากคฤหัสถ์ทั้งหลาย
สมณะหรือพระภิกษุสามเณร จัดเป็นอุปริมทิศ คือ ทิศเบื้องบน ใน ทิศ 6 เพราะท่านเป็นผู้ที่สูงด้วยคุณธรรม สูงด้วยศีลาจารวัตร และเป็นผู้นำทางจิตใจ ฆราวาสทั้งหลายพึงปฏิบัติต่อสมณะ 5 สถาน
ลูกจ้าง จัดเป็นเหฏฐิมทิศ หรือ ทิศเบื้องล่าง ในทิศ 6 เพราะเป็นผู้ที่คอยช่วยเหลือรับใช้นายจ้าง ช่วยทำงานต่าง ๆ และเป็นฐานกำลังให้แก่นายจ้าง การที่ผู้เป็นลูกจ้างจะสามารถดำรงชีพอยู่ได้ก็ต้องอาศัยนายจ้าง
ลูกจ้าง จัดเป็นเหฏฐิมทิศ หรือ ทิศเบื้องล่าง ในทิศ 6 เพราะเป็นผู้ที่คอยช่วยเหลือรับใช้นายจ้าง ช่วยทำงานต่าง ๆ และเป็นฐานกำลังให้แก่นายจ้าง การงานทั้งหลายของนายจ้างจะสำเร็จลุล่วงได้ต้องอาศัยลูกจ้าง ดังนั้น ลูกจ้างจึงมีความสำคัญต่อการประสบความสำเร็จของนายจ้าง
มิตรสหาย จัดเป็นอุตตรทิศ คือ ทิศเบื้องซ้าย ในทิศ 6 เพราะเป็นผู้ช่วยให้ข้ามพ้นอุปสรรคอันตราย และเป็นกำลังสนับสนุนให้บรรลุความสำเร็จ
มิตรสหาย จัดเป็นอุตตรทิศ คือ ทิศเบื้องซ้าย ในทิศ 6 เพราะเป็นผู้ช่วยให้ข้ามพ้นอุปสรรคอันตราย และเป็นกำลังสนับสนุนให้บรรลุความสำเร็จ
ภรรยา ได้ชื่อว่าเป็นปัจฉิมทิศ คือ ทิศเบื้องหลัง ในทิศ 6 เพราะเป็นผู้ติดตามคอยสนับสนุนสามีในการทำงานหาเลี้ยงครอบครัว สามีภรรยาต้องมีความรักความซื่อสัตย์ต่อกัน ชีวิตคู่จึงจะมีความสุข
ภรรยา ได้ชื่อว่าเป็นปัจฉิมทิศ คือ ทิศเบื้องหลัง ในทิศ 6 เพราะเป็นผู้ติดตามคอยสนับสนุนสามีในการทำงานหาเลี้ยงครอบครัว สามีภรรยาต้องมีความรักความซื่อสัตย์ต่อกัน ชีวิตคู่จึงจะมีความสุข
ครูอาจารย์ ได้ชื่อว่าเป็นทักขิณทิศ คือ ทิศเบื้องขวา ในทิศ 6 เพราะครูอาจารย์เป็นผู้ที่คอยประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้อันเปรียบเสมือนแขนข้างขวาที่ใช้สร้างความเจริญให้แก่ศิษย์
ครูอาจารย์ ได้ชื่อว่าเป็นทักขิณทิศ คือ ทิศเบื้องขวา ในทิศ 6 เพราะครูอาจารย์เป็นผู้ที่คอยประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้อันเปรียบเสมือนแขนข้างขวาที่ใช้สร้างความเจริญให้แก่ศิษย์
มารดาบิดา จัดเป็นปุรัตถิมทิศ คือ ทิศเบื้องหน้า ในหลักทิศ 6 เพราะเป็นผู้มีอุปการะแก่บุตรก่อนกว่าคนอื่นทั้งปวง มารดาบิดา จัดเป็นพรหมของลูก เพราะเป็นผู้ที่ประกอบด้วยพรหมวิหาร 4
มารดาบิดา จัดเป็นปุรัตถิมทิศ คือ ทิศเบื้องหน้า ในหลักทิศ 6 เพราะเป็นผู้มีอุปการะแก่บุตรก่อนกว่าคนอื่นทั้งปวง มารดาบิดาย่อมอนุเคราะห์บุตรธิดาด้วย 5 สถาน
ทิศ ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงทิศโดยทั่วไปมีทิศเหนือเป็นต้น แต่หมายถึงบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับตัวเราโดยฐานะและหน้าที่ 6 ประเภท พระพุทธเจ้าทรงนำบุคคลเหล่านั้นมาเปรียบเทียบกับทิศทั้ง 6 และแสดงหลักการปฏิบัติต่อบุคคลเหล่านั้นไว้
อุบาสกธรรม หมายถึง ธรรมะของอุบาสก หรือคุณสมบัติของอุบาสก ธรรมที่เป็นไปเพื่อความเจริญของอุบาสก ซึ่งหมายถึงผู้ใกล้ชิดพระรัตนตรัย ได้แก่ผู้รับเอาพระรัตนตรัยเป็นสรณะ ไม่มีสรณะอื่นยิ่งกว่า ถ้าเป็นสตรีเรียกว่า อุบาสิกา คุณสมบัติของอุบาสกนั้นมี 7 ประการ
อุบาสกธรรม 5 ประการ
1. ประกอบด้วยศรัทธา
2. รักษาศีลบริสุทธิ์
3. ไม่ถือมงคลตื่นข่าว คือเชื่อกรรม ไม่เชื่อมงคล
4. ไม่แสวงหาเขตบุญนอกพระพุทธศาสนา
5. บำเพ็ญบุญเฉพาะในพระพุทธศาสนา
มิจฉาวณิชชา 5 ประการ
1. สัตถวณิชชา การค้าขายอาวุธ
2. สัตตวณิชชา การค้าขายมนุษย์
3. มังสวณิชชา การค้าขายสัตว์
4. มัชชวณิชชา การค้าขายน้ำเมา
5. วิสวณิชชา การค้าขายยาพิษ
ประโยชน์ที่ควรถือเอาจากโภคทรัพย์ (โภคอาทิยะ) 5 ประการ
1. เลี้ยงตัวเอง มารดาบิดา บุตรภรรยา และคนในปกครอง ให้เป็นสุข
2. บำรุงมิตรสหายและผู้ร่วมกิจการงานให้เป็นสุข
3. บำบัดอันตรายที่เกิดแต่เหตุต่างๆ
4. ทำพลี 5 อย่าง
5. อุปถัมภ์บำรุงสมณพราหมณ์ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบ
ฆราวาสธรรม แปลว่า หลักธรรมสำหรับฆราวาส ธรรมะสำหรับผู้ครองเรือน หมายถึง หลักการครองชีวิตของคฤหัสถ์ ธรรมะอันเป็นข้อปฏิบัติในการใช้ชีวิตของผู้ครองเรือน เพื่อให้เกิดความสุขความเจริญแก่ภาวะของตน มี 4 ประการ
กุลจิรัฏฐิติธรรม คือ ธรรมสำหรับดำรงความมั่งคั่งของตระกูลให้ยั่งยืน ได้แก่ สาเหตุที่ทำให้ตระกูลมั่งคั่งสามารถดำรงอยู่ได้นาน ไม่พบกับความพินาศฉิบหายแห่งทรัพย์ มี 4 ประการ
พระพุทธเจ้าทรงแสดงเหตุ 4 ประการ ที่ทำให้ตระกูลที่ร่ำรวยต้องพบกับความพินาศหรือพบกับความยากจน เป็นธรรมสำหรับเตือนสติผู้ครองเรือน เพื่อให้หลีกเลี่ยงการกระทำ 4 อย่างนี้ จะได้รักษาตระกูลเอาไว้ได้ ไม่ต้องพบกับความพินาศย่อยยับ
ชาวโลกทั้งปวงต้องการมีทรัพย์สมบัติจำนวนมาก จึงพากันดิ้นรนเพื่อแสวงหาทรัพย์ ต้องทำงานทำการ ประกอบธุรกิจต่าง ๆ นานา เพื่อให้ได้ทรัพย์สินมา คนจนก็ต้องการมีฐานะร่ำรวย แม้แต่คนที่รวยอยู่แล้วก็ยังต้องการร่ำรวยยิ่งขึ้นไปอีก
สุขของคฤหัสถ์ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า คิหิสุข หรือ กามโภคีสุข หมายถึง ความสุขของชาวบ้าน ความสุขระดับชาวบ้าน ความสุขระดับของผู้ครองเรือน เป็นความสุขที่อยู่ในระดับโลกิยสุข เป็นความสุขอันชอบธรรมที่ผู้ครองเรือนทั่วไปควรมี ท่านจำแนกไว้ 4 ประการ
สังคหวัตถุ แปลว่า วัตถุเป็นเครื่องสงเคราะห์ หรือ หลักการสงเคราะห์ หมายถึง ธรรมเป็นเครื่องสงเคราะห์กัน ธรรมเครื่องยึดเหนี่ยวใจบุคคล ธรรมเป็นเครื่องผูกไมตรี ผู้ประพฤติธรรมข้อนี้จะเป็นผู้มีเสน่ห์ ผู้คนรักใคร่เอ็นดู มี 4 ประการ
มิตรแท้ หรือ สุหทมิตร คือ มิตรที่มีความจริงใจ มิตรมีจิตใจดี เป็นบุคคลที่ควรคบหาไว้เป็นมิตร มี 4 ประเภท
มิตรเทียม หรือ มิตรปฏิรูปก์ คือ คนเทียมมิตร ไม่ใช่มิตรแท้ คนพวกนี้เหมือนจะเป็นเพื่อนแต่ก็ไม่ควรเรียกว่าเพื่อน เปรียบเหมือนศรัตรูที่อยู่ในร่างมิตร ไม่ควรคบ มี 4 ประเภท
สัมปรายิกัตถะ หรือ สัมปรายิกัตถสังวัตตนิกธรรม คือ ธรรมที่เป็นไปเพื่อประโยชน์เบื้องหน้า หรือ ธรรมที่เกื้อหนุนให้ได้ประโยชน์ในภายหน้าหรือภพหน้า มี 4 ประการ
ทิฏฐธัมมิกัตถะ หรือ ทิฏฐธัมมิกัตถสังวัตตนิกธรรม คือ ธรรมที่เป็นไปเพื่อประโยชน์ในปัจจุบัน หลักธรรมอันอำนวยประโยชน์สุขในขั้นต้น เป็นหลักปฏิบัติในการสร้างเนื้อสร้างตัว สร้างฐานะที่มั่นคง มี 4 ประการ
อบายมุข 6 ประการ
1. ติดสุราและของมึนเมา
2. ชอบเที่ยวกลางคืน
3. ชอบเที่ยวดูการละเล่น
4. เกียจคร้านทำการงาน
5. คบคนชั่วเป็นมิตร
6. ติดการพนัน
อบายมุข แปลว่า ช่องทางของความเสื่อม ปากแห่งความเสื่อม หมายถึง ทางที่จะนำไปสู่ความพินาศ เหตุย่อยยับแห่งโภคทรัพย์ เป็นทางแห่งความเสื่อมทรัพย์สมบัติและเกียรติยศชื่อเสียง ผู้ใดประพฤติเข้า ย่อมถึงความวิบัติล่มจม ท่านจำแนกไว้ 4 ประการบ้าง 6 ประการบ้าง
กรรมกิเลส แปลว่า กรรมเครื่องเศร้าหมอง หมายถึง การกระทำที่นำมาซึ่งทุกข์ เพราะเป็นกรรมที่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่นให้ได้รับความเดือดร้อน ผู้กระทำย่อมถูกสังคมติเตียนรังเกียจ มี 4 ประการ